วันจันทร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ประวัตติ สมาชิกวงร็อค AC/DC







ข้อมูลพื้นฐาน

แหล่งกำเนิด ซิดนีย์, นิวเซาท์เวลส์, ออสเตรเลีย
แนวเพลง ฮาร์ดร็อก, เฮฟวีเมทัล, บลูส์-ร็อก, ร็อกแอนด์โรล
ช่วงปี 1973 – ปัจจุบัน
ค่ายเพลง Albert, EMI, Columbia, Epic, Atlantic, Atco, Elektra, East West
ส่วนเกี่ยวข้อง Geordie, The Easybeats
เว็บไซต์ www.acdc.com,www.acdcrocks.com


สมาชิก

Brian Johnson
Angus Young
Malcolm Young
Cliff Williams
Phil Rudd


อดีตสมาชิก
Bon Scott
Simon Wright
Chris Slade
Mark Evans
Dave Evans

 เอซี/ดีซี (อังกฤษ: AC/DC) เป็นวงร็อกออสเตรเลีย ก่อตั้งวงในซิดนีย์ ในปี 1973 โดยพี่น้อง มัลคอล์มและแอนกัส ยัง ถึงแม้ว่าโดยทั่วไปจะจำแนกวงนี้ว่าเป็นแนวฮาร์ดร็อกและถือว่าเป็นผู้บุกเบิก ดนตรีเฮฟวีเมทัล แต่พวกเขาก็มักจะจำแนกแนวเพลงพวกเขาว่าเป็น "ร็อกแอนด์โรล"

เอ ซี/ดีซี เผชิญกับการเปลี่ยนสมาชิกในวงหลายหน ก่อนที่จะออกอัลบั้มชุดแรก High Voltage ในปี 1975 สมาชิกของวงเริ่มคงตัวเมื่อมือเบส มาร์ก อีแวนส์มาแทนที่ คลิฟ วิลเลียมส์ ในปี 1977 ต่อมาในปี 1979 วงได้บันทึกเสียงอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในชื่อชุด Highway to Hell นักร้องนำและผู้ร่วมเขียนเพลง บอน สก็อต เสียชีวิตเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1980 หลังจากคืนที่ดื่มแอลกอฮอล์อย่างหนัก วงได้ตัดสินใจแยกวงไป แต่แล้วอดีตนักร้องวงกอร์ดี ที่ชื่อไบรอัน จอห์นสันก็ถูกเลือกให้มาแทนที่สก็อตต์ ต่อมาในปีนั้นวงออกอัลบั้มชุดที่ขายดีที่สุดของวงในชื่อชุด Back in Black



อัลบั้ม ถัดมาของวง Those About to Rock We Salute You ก็ประสบความสำเร็จอย่างสูงและถือเป็นอัลบั้มแรกของวงที่สามารถขึ้นอันดับ 1 ในสหรัฐอเมริกา เอซี/ดีซี เริ่มเสื่อมความนิยมลงไปหลังจากมือกลอง ฟิล รัดด์ถูกไล่ออกในปี 1983 และถูกแทนที่ด้วยไซมอน ไรต์ (ต่อมาร่วมวงกับดิโอ) ฟิล รัดด์กลับมาอีกครั้งในปี 1994 (หลังจากสเลดถูกให้ออกจากวง) และเขาได้ทำงานใหอัลบั้มปี 1995 ชุด Ballbreaker ในปี 2000 ออกผลงานอัลบั้มชุด Stiff Upper Lip ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากนักวิจารณ์ ทางวงออกผลงานชุดล่าสุด Black Ice เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ค.ศ. 2008

เอ ซี/ดีซี มียอดขายอัลบั้มมากกว่า 200 ล้านชุดทั่วโลก รวมถึงขายอัลบั้มในสหรัฐอเมริกาได้กว่า 71 ล้านชุด อัลบั้มชุด Back in Black มียอดขายราว 45 ล้านชุดทั่วโลก โดยมียอดขายเฉพาะในสหรัฐอเมริกาเพียงแห่งเดียวที่ 22 ล้านชุด ซึ่งถือเป็นอัลบั้มที่มียอดขายมากที่สุดเป็นอันดับที่ 5 เอซี/ดีซี ติดอยู่อันดับที่ 4 ของการจัดอันดับทางช่องวีเอชวันในหัวข้อ "100 ศิลปินฮาร์ดร็อกที่ยอดเยี่ยมที่สุด" และอันดับ 7 ของการจัดอันดับทางช่องเอ็มทีวี ในหัวข้อ "วงเฮฟวีเมทัลที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล" ในปี 2004 พวกเขาติดอยู่อันดับที่ 72 ทางนิตยสารโรลลิงสโตน ในหัวข้อ 100 ศิลปินที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล




จุดเริ่มต้น

สอง พี่น้องตระกูลยัง Malcolm ผู้พี่เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1953 และ Angus ผู้น้องเกิดเมื่อปี ค.ศ. 1959 ย้ายบ้านเกิดจากกลาสโกลว์สู่ออสเตรเลีย และตั้งรกรากอยู่ที่ซิดนีย์ในปี 1963 พี่ชายคนโตของตระกูลยัง George ผู้ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง Easybeats และ George นั้นเองที่เป็นผู้ที่ทำให้ทั้ง Malcom และ Angus ได้สัมผัสกับร็อคแอนด์โรลล์ และการละเลงเส้นลวดบนกีตาร์ เขาช่วยให้น้องชายทั้งสองคนได้ค้นพบกับ AC/DC ในปี1973 วงดนตรีที่ทรงอิทธิพลต่อ Malcom และ Angus นั้นคือ เรือเหาะ Led Zeppelin และวงหินกลิ้ง Rolling Stones ในส่วนของ Bon Scott ฟร้อนท์แมนของวงเกิดในประเทศสก๊อตแลนด์เมื่อปี1946

แต่ก่อนหน้านี้ เขารับหน้าที่กระหน่ำกลองให้กับทางวงเมื่อเดือนมีนาคม ปี1974 ไม่นานนักทางวงก็กำลังมองหาสมาชิกใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำแหน่งนักร้องนำ Bon Scott ถึงกับงวยงงกับการที่เขาถูกจับให้เป็นนักร้องนำของทางวง และอีก2สมาชิกที่เข้ามาร่วมกับวง Philipp Rudd หรือชื่อเดิม Philipp Witschke เกิดเมื่อปี1954 เข้ามาแทนที่ในตำแหน่งมือกลองซึ่งเป็นที่รู้จักมากกว่า Mark Evans ที่เข้ามาเล่นในตำแหน่งเบสส์เกิดในปี 1956




พวก เขาเป็นที่ดึงดูดใจตามผับชาวออสซี่อย่างรวดเร็ว และอัลบั้ม High Voltage กับ Dirty Deeds Done Dirt Cheap ประสบความสำเร็จเหมือนซิงเกิ้ลของพวกเขาที่ชื่อ TNT ได้ออกมาสู่ท้องตลาด ซาวด์ดนตรีของพวกเขานั้นตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นริธึ่มแอนด์บลูอย่าง เหนียวแน่น และได้ถูกนำมาเผยแพร่ให้ชาวยุโรปได้สดับกันในปี1976 ทางวง AC/DC มีการพัฒนาทางด้านการค้าอัลบั้ม Let’s there be rock ซึ่งติดอันดับที่28บนชาร์ตเพลงเกาะอังกฤษในปี1977 ระหว่างปี1979และ1981 อัลบั้มของพวกเขาได้คว้ารางวัลแผ่นทองคำขาวมากมายในสหรัฐอเมริกา ทางวงขายแผ่นเสียงอัลบั้ม Highway to hell ที่ออกปี1979 ได้หลายล้านแผ่นซึ่งขณะนั้นยึดอันดับอยู่ที่22ในสหรัฐ และอันดับสิบในสหราชอาณาจักร ซิงเกิ้ลต่างๆได้แก่ Rock ’n’ Roll Ain’t Noise Pollution, Let’s Get It Up และ For those about to rock ได้เดินขบวนไต่ขึ้นไปสู่ชาร์ตเพลงในอันดับที่18, 14 และ 13ตามลำดับ
   
ใน เดือนกุมภาพันธ์ปี1980 ฟร้อนท์แมนของวง Bon Scottถูกพบว่าเสียชีวิตอยู่ในรถของตัวเขาเองสาเหตุนั้นมาจากการที่เขาดวด สุราไม่บันยะบันยัง ทางวงได้สมาชิกใหม่ในตำแหน่งนักร้องนำมาแทนที่ Bon Scott นั่นก็คือ Brian Johnson อดีตฟร้อนท์แมนแห่งวง Teenie-band Geordie มาร่วมวง ในเดือนเมษายนและพฤษภาคมปี1980 วง AC/DC ได้ทำการบันทึกเสียงลงอัลบั้ม Black in Black ซึ่งสามารถขายได้มากกว่าสิบสองล้านแผ่นทั่วโลก ขึ้นถึงอันดับสามในสหราชอาณาจักรและอันดับหกในสหรัฐอเมริกา
มาถึงในปี 2000 ยอดขายแผ่นเสียงอัลบั้มของ AC/DC ขายได้ทั่วโลกรวมๆแล้วประมาณ 85 ล้านแผ่น และในอัลบั้มสุดท้ายเมื่อปี 1995 ที่ชื่อ Ball breaker นั้นถือว่าประสบความสำเร็จ(เล็กๆ)เหมือนกัน และซิงเกิ้ล Hard as a rock and hail Caesar rose ได้ไต่ขึ้นถึงอันดับที่สามสิบสามและห้าสิบหกบนเกาะอังกฤษ




อัลบั้ม ใหม่ของทางวงที่ชื่อ Stiff Upper Lip ในปี 2000 นั้นถือได้ว่าเป็นสตูดิโออัลบั้มแรกในรอบกว่าสี่ปี และสมาชิกยุคปัจจุบันของทางวงประกอบไปด้วย Brian Johnson ร้องนำ, Angus Young มือกีตาร์พลังล้นเหลือ, Cliff Williams ในตำแหน่งเบส, Malcom Young ผู้พี่ในตำแหน่งมือกีตาร์ และ Phil Rudd ควบกลอง พวกเขายังคงความเป็นฮาร์ดร็อคที่เก๋าสดและดิบ ด้วยลักษณะเฉพาะในการผสมผสานแนวดนตรี ในแนวริธึ่มแอนด์บลูให้รวมกับร็อคแอนด์โรลล์ได้เข้มข้นและลงตัว อัลบั้ม Stiff Upper Lip นั้นเป็นอัลบั้มที่รับประกันความหนักแน่น แต่บ่อยครั้งในหลายๆเพลงของ AC/DCมักจะทำซาวด์ดนตรีออกมาในรูปแบบไม่เหมือนเก่า ดังนั้นแฟนเพลงจึงยังคงความนิยมในหลายๆเพลงเช่น with meltdown, House of Jazz, Give it up, Safe in New York City และไตเติ้ลแทร็ค Stiff Upper lip


"ผม ไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นนักกีตาร์ ที่เก่งกาจอะไร ? เพียงแต่ผมสามารถใช้กีตาร์เร่งเร้า และกระตุ้นอารมณ์คนฟังได้ " Angus Young ถ้าได้ฟังงานของ Ac/Dc คุณจะรู้สึกได้เลยว่าประโยคที่ Angus กล่าวนั้นมันเป็นสิ่งที่ตอบแทนตัวเขาอยู่แล้ว งานดนตรีของวง Ac/Dc นั้น จัดเป็นวงหัวแถวในแนว Heavy Metal ที่ sound ดิบ ๆ เป็นวงเก่าแก่ ซึ่งเป็นกลายตำนานบทหนึ่งของประวัติศาสตร์ดนตรีร็อค Ac/Dcเป็นวงจากออสเตรเลีย ที่เกิดประมาณปี 1975 ซึ่งอยู่ในยุครุ่งเรืองของดนตรีเฮฟวี่ เมทัล ครองเมือง (1968 -1980) ในยุคนั้นมีวง ระดับหัวกะทิเกิดขึ้นมากมาย เช่น แวน ฮาแลน , รัช , สคอร์เปี้ยนส์ , จูดาส พรีสท์ ยูเอฟโอ ฯลฯ

พอพูดถึงกางเกงขาสั้น ก็ไปตรงเป็นเอกลักษณ์ของวง Ac/Dc พอดี Angus Young นักกีตาร์ที่ก้าวขึ้นสู่เวที่ด้วยยูนิฟอร์มของ นักเรียนมัธยม ซึ่งในยุคนั้นมีแต่แฟชั่นของวงร็อคชุดหนัง แต่รูปแบบของ Augus Young กลับกลายเป็นจุดเด่นของวง ที่แตกต่างจากวงอื่นอย่างชัดเจน แค่เพียงจุดเล็ก ๆ ตรงนี้ก็เป็นจุดหนึ่งกที่แสดงให้เห็นถึงความคิด ที่มีรูปแบบของตัวเอง และบงบองไปถึงงานดนตรีAC /Dc ไม่จำเป็นต้องใส่ชุดหนังก็ร็อคได้ เพียงแต่ต้องเข้าใจในดนตรีที่ตัวเองรัก และนำเสนอออกไปในรูปแบบของตัวเอง อันอื่นเป็นส่วนประกอบ และเวลาก็พิสูจน์ ว่า Ac /Dc เป็นวงที่มีเอกลักษณ์ของตัวเอง และยืนอยู่ได้อย่างมั่นคงท่ามกลางกระแสดนตรีใหม่ ๆในปัจจุบัน โดยเฉพาะการเล่นกีตาร์ solo ของ แองกัส และลีลา การสับคอร์ด Rhythm ของพี่ชายเขา มัลคอล์ม ยังก์ (Malcolm Young)ที่กลายเป็นเครื่องการค้าของ AC/Dc และยังเป็นต้นแบบให้กับวงดนตรีรุ่นหลังมากมายจนถึงปัจจุบัน




สตูดิโออัลบั้ม

High Voltage (Australia) (1975)
T.N.T. (1975)
High Voltage (international) (1976)
Dirty Deeds Done Dirt Cheap (1976)
Let There Be Rock (1977)
Powerage (1978)
Highway to Hell (1979)
Back in Black (1980)
For Those About to Rock (We Salute You) (1981)
Flick of the Switch (1983)
Fly on the Wall (1985)
Who Made Who (1986)
Blow Up Your Video (1988)
The Razors Edge (1990)
Ballbreaker (1995)
Stiff Upper Lip (2000)
Black Ice (2008)



ที่มา http://th.wikipedia.org/wiki/AC/DC เเละ http://www.educatepark.com/english/artist_profile/acdc.php?artist_id=18


Angus Young และ Bon Scott อัจฉริยะผู้คุ้มคลั่งกับกวีขี้เมา

AC/DC ขายแผ่นได้รวมทั้งหมด 200ล้านชุดทั่วโลกเฉพาะในอเมริกาขายได้ 68ล้านชุด

ที่ ประเทศออสเตรเลีย วง AC/DC ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1973 โดย Angus และ Malcolm สองพี่น้องตระกูล Young ต่อมาในปี 1974 Bon Scott เข้าร่วมเป็นสมาชิกในวง




Angus Young เป็นสุดยอดฝีมือคนหนึ่งในเรื่องการร็อคด้วยกีต้าร์ แต่วงการดนตรีรวมทั้งผู้สื่อข่าว ทีวี และแม็กกาซีน ให้ความสำคัญกับเขาน้อยเกินไป เป็นเพราะเขามักจะทำตัวงี่เง่าอุบาทว์ไม่ธรรมดา ถามอย่างตอบอย่าง บ่อยครั้งที่เขาบอกกับผู้สัมภาษณ์ว่า “Kiss my ass” แปลตรงตัวก็คือ จูบตูดฉัน แต่มันเป็นแสลงที่แปลเป็นไทยก็ประมาณว่า “ส้นตีนเหอะ” อะไรประมาณนั้น

แต่เบื้องลึกของความงี่เง่าและคุ้มคลั่ง เขาคืออัจฉริยะแห่งการดนตรี เขาสร้าง Lead และ Riff ขึ้นมาจากสเกล(scale) Rock และ Blues ผสมกัน แนวดนตรีหลักของเขาคือ Rhythm & Blues ผนวกกับ Rock and Roll ทำให้เกิดดนตรีแนวใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว



Bon Scott นักร้อง/นักแต่งเพลงขี้เมา เขาติดเหล้าถึงขนาดต้องหิ้วขึ้นไปกินบนเวทีด้วย แต่เขาจะซ่อนเอาไว้หลังตู้ลำโพง พอได้โอกาสในช่วงที่ Angus กำลังโซโล่กีต้าร์ เขาก็จะแว็บเข้าไปกรึ๊บ บ่อยครั้งพอเขาเมาได้ที่ ทีนี้ไม่ซ่อนแล้วครับ หิ้วขวด Jack Daniel’s ก๋าออกมาดวดกลางเวทีเลย บางครั้งก็กรอกใส่ปาก Angus ด้วย แต่ Angus ไม่ชอบกินเหล้าในขณะแสดงคอนเสิรท เขาจึงมักจะอมเอาไว้แล้วไปพ่นใส่คนดู

เขา ไม่ถูกล้อเลียนว่า จน เครียด กินเหล้า เพราะเขาสามารถแต่งเพลงและร้องมันได้อย่างทำเงินมหาศาล เพลงแนวร็อคโดยเฉพาะ Rhythm & Blues เป็นเพลงที่แต่งทำนองการร้องได้ยากมาก เพราะทำนองเพลงจะถูกเขียนขึ้นมาก่อน และมักจะเป็นในแนว Riff ไม่ใช่คอร์ดทั่วไป ทำให้การสร้างทำนองการร้องนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ใช่ว่าใคร ๆ ก็ทำได้ Bon Scott หิ้วขวดเหล้า Jack Daniel’s ขึ้นไปดวดบนเวทีบ่อยเสียจนบริษัท Jack Daniel’s จ้างให้เขาเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณาเหล้า และจ้างให้เขาเขียนคำโฆษณาด้วย แต่หลายคำที่เขาเขียนไม่ผ่าน กบว.




ใน ปี 1977 หลังจากออกอัลบั้ม Let There Be Rock เป็นอัลบั้มที่ทำเงินให้กับพวกเขาเป็นจำนวนมาก ไม่นานหลังจากนั้น Bon บังเอิญไปพบกับหมอดูไผ่ยิปซี เขาบอกกับหมอดูว่าช่วยบอกสิ่งที่เขาควรรู้กับเขา หมอดูบอกให้ Bon ดึงไผ่ออกมาจากสำรับสองใบ เมื่อหมอดูเห็นไผ่สองใบที่เขาดึงออกมาก็ตกใจแล้วพูดว่า “ไผ่บอกว่าคุณจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกแค่ 3 ปี” นั่นหมายความว่าเขาจะต้องตายในปี 1980 เขานำเรื่องนั้นไปเล่าให้เพื่อน ๆ ในวงฟัง พวกเืพื่อน ๆ คิดว่านั่นเป็นเรื่องขำขันแนวขนหัวลุกดี และชอบหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาแซวกันเล่นตลอดมา เมื่อปลายปี 1979 เขาจึงแต่งเพลงชื่อว่า Highway To Hell ขึ้นมาเพื่อเป็นการล้อเลียนเชิงส่งเสริมคำทำนายนั้น และยังตั้งชื่ออัลบั้มนี้ว่า Highway To Hell อัลบั้มนี้ดังระเบิด เป็นอัลบั้มที่พวกเขาขายได้มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ชื่อเสียงของวง AC/DC ขยายกว้างออกไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว

คืนวันที่ 19 กุมพาพันธ์ 1980 Bon และเพื่อน ๆ ไปกินเหล้ากันที่คลับแห่งหนึ่งใน London ชื่อว่า MusicMachine ผู้ที่ไปด้วยกันบอกว่าคืนนั้น Bon สนุกกับการดื่มมาก และยังเป็นจุดสนใจของสาว ๆ ขาร็อคหลายคน Bon ดื่มอย่างเมามัน แต่เมื่อเขาเมาเกินกว่าที่เขาจะควบคุมตัวเองได้ เขาได้กระซิบกับเพื่อนว่าเขาขอตัวไปอวกข้างนอก สักพักใหญ่หลังจากนั้น เพื่อนของเขาได้เดินออกไปดู เห็นเขานอนอยู่ในรถ เพื่อนเขาจึงปล่อยให้เขาพักผ่อน แต่พอรุ่งเช้าเพื่อนเขาพยายามปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น จึงรีบเรียกรถพยาบาล แต่เมื่อเขาไปถึงโรงพยาบาล หมอผู้ตรวจอาการได้บอกว่า เขาเสียชีวิตไปแล้ว

ที่มา http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=jukeboxxx&month=09-05-2008&group=3&gblo







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น